คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ใหม่ในการไปห้องสมุดอุทยานแมลง (Creepypasta / Rule of horror) - คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ใหม่ในการไปห้องสมุดอุทยานแมลง (Creepypasta / Rule of horror) นิยาย คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ใหม่ในการไปห้องสมุดอุทยานแมลง (Creepypasta / Rule of horror) : Dek-D.com - Writer

    คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ใหม่ในการไปห้องสมุดอุทยานแมลง (Creepypasta / Rule of horror)

    เจ้าหน้าที่หน้าใหม่ถูกขอร้องให้ไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดอุทยานแมลงซึ่งมีคำแนะนำที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งขรัด (Creepypasta / Rule of horror)

    ผู้เข้าชมรวม

    766

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    766

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    19
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ส.ค. 64 / 14:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

         One Shot ' คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ใหม่ในการไปห้องสมุด #อุทยานแมลงตอนกลางคืน


         สวัสดีครับทุกคน อุทยานแมลงตอนกลางคืนดำเนินมาถึงตอนที่สี่แล้วนะครับ ตอนนี้ขึ้นสัปดาห์ที่สาม ร่วมถึงตัวเอกคุงของพวกเราด้วยเช่นกัน หลังจากผ่านกฎของอาคารหลัก โดมผีเสื้อ โซนลี้ลับพิศวงกับภัตตาคารใกล้เคียงแล้ว วันนี้ความท้าทายครั้งใหม่ก็เริ่มขึ้น เขาจะผ่านอุปสรรคมากมายเพื่อรับเงินเดือนตามปรารถนาหรือหรือไม่ ขอให้เกาะติดเรื่องราวของเขาเอาไว้นะครับ

         เรื่องราวนี้สามารถอ่านแยกได้ครับ หรือสำหรับท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านอุทยานแมลงตอนก่อนๆ สามารถอ่านเรื่องราวได้ที่นี่นะครับ


         Part 1 : [กฎการทำงานในอุทยานกีฏวิทยาตอนกลางคืน]


         Part 2 : [ข้อเสนอแก่เจ้าหน้าที่ใหม่ในการดูแลโซนแมลงดึกดําบรรพ์]


         Part 3 : [กฎของการทำงานในภัตตาคารแมงมุมมรณะ]


         ขอฝากผลงานเรื่องสั้นเรื่องนี้ไปจนบรรทัดสุดท้ายนะครับ :)


    .

    .

    .

         "ยืมหนังสือตอนนี้หรือครับ?"

         ผมถามกลับไปยังคู่หูของผมในค่ำคืนนี้ ด้านคุณผู้เชี่ยวชาญจากโดมผีเสื้อก็พยักหน้าเล็กน้อยแทนคำตอบของเขา

         วันนี้พวกเราเหล่าสมาชิกอาคารหลักได้สลับหน้าที่และคู่หูกัน รุ่นพี่ลีเวอร์กับคุณน้องชุดแดงจับคู่ไปทำภารกิจช่วยงานครัวเชฟใหญ่ในภัตตาคารแมงมุม ส่วนพวกผมมาเข้ากะด้วยกันในฐานะหน่วยลำเลียง งานของเราโดยหลักคือขับรถตอนกลางคืนไปรับ'ของ'นำส่งให้ชาวกุ๊กหลังร้านปรุงรส (ของที่ว่าผมเรียกชื่อเล่นว่าวัตถุปริศนาX ละไว้ในฐานที่อธิบายมันไม่ได้นะครับ ผมเหล่ดูไปสักสามหรือสี่รอบได้แล้วด้วยความอยากรู้ พระเจ้า อย่างกับหลุดมาจากนิยายเลิฟคราฟท์ ผมเกือบเป็นลมถ้าพวกรุ่นพี่ไม่อยู่ เอาเป็นว่าคนธรรมดากระเดือกมันลงไปไม่ได้แน่ครับ)

         "ตำราวิจัยด้านกีฏวิทยาน่ะ สถานที่คือตรงนี้"

         คุณผู้เชี่ยวชาญแจ้ง ก่อนที่ใบหน้าซีดเผือดพร้อมฝูงผีเสื้อกลางคืนจะเขยิบมาใกล้ผม ใช้ปลายนิ้วชี้ไปยังพิกัดบนแผนที่ ผมพิจารณาตำแหน่ง แอบใช้โทรศัพท์ช่วยคำนวณระยะทางกับเวลา มันห่างจากที่นี่ไม่ถึงห้านาที แถมอยู่ห่างอาคารอุทยานหลักแค่เล็กน้อยเท่านั้น

         เวลาตอนนี้ทุ่มยี่สิบ ส่วนสายส่งนัดครั้งต่อไปคือสามทุ่ม ไม่มีปัญหา อีกตั้งหนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อนสายส่งไปที่จุดนัดพบ เป็นทางผ่านพอดีด้วย

         "ไม่ต้องห่วง เราใช้เวลายืมไม่นานหรอก"

         "เดี๋ยวผมจะขับไปส่งนะครับ เชื่อมือได้เลย" ผมบอกไปเช่นนั้น คุณผู้เชี่ยวชาญเองก็ช่วยผมเอาไว้หลายครั้งในโดมผีเสื้อ เรื่องขับรถไปห้องสมุดฟังดูจิ๊บจ๊อยไปเลย พวกเรากระโดดขึ้นรถขับออกมาอย่างว่องไว ประสานงานกับทีมภัตตาคารเรียบร้อยเสร็จสรรพเพื่อความไม่ประมาท การเดินทางของเรานั้นราบรื่น ถึงป่าจะมืดเต็มไปด้วยเสียงนกและแมลงระงม แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปรกติหรือภัยอะไร

         ---จนมาถึงอาคารห้องสมุด มันเป็นตึกที่สูงใหญ่เอาเรื่องเลยทีเดียว เหมือนปราการของพวกปีศาจในหนัง เห็นรอบๆแล้วชวนให้วังเวงใจโหวงเหวงสุดๆ

         "ไม่ยักรู้ว่ามีห้องสมุดอลังการในเขตอุทยานแมลงพวกเราด้วยนะครับเนี่ย ใหญ่โตชะมัด"

         "เมื่อก่อนเคยอยู่ในอาคารหลักแต่พอพวกเรามาใช้กันเยอะก็เลยย้ายมาสร้างอาคารใหม่ที่นี่"

         "ไม่ใช่ว่าอนาคตท่านผอ. จะโยนข้อเสนอให้ผมทำงานที่นี่นะครับ ขนลุกขนพอง คราวนี้จะกี่หมื่นกี่แสนก็ซื้อผมไม่ได้หรอกนะครับ"

         "ฮึ เราจะรีบไปรีบมานะ"คุณผู้เชี่ยวชาญร่างเล็กเปิดประตูกระโดดลงจากรถอย่างว่องไวพร้อมเหล่าผีเสื้อเรืองแสงรอบตัวเขา เจ้าตัวจุดตะเกียงแล้วเดินไปที่ประตูอาคาร เคาะ กำลังจะเข้าไปผมก็นึกบางอย่างได้จึงทักไปว่า

         "เอ่อ ไปด้วยกันไม่ดีกว่าเหรอครับ แยกกันผมรู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้?"ผมตะโกน คู่หูในคืนนี้ของผมใช้นิ้วชี้แตะริมฝีปากตนเองพลางส่งเสียงชู่ เขาเดินย้อนกลับมาแล้วยื่นบางอย่างให้ผม...มันเป็นสมุดพกเล็กจิ๋วสำหรับพกพาเล่มหนึ่ง

         "เด็กใหม่อยู่ในรถหุ้มเกราะปลอดภัยกว่า แต่ถ้าหากเกินสิบห้านาทีเรายังไม่ออกมา อ่านเจ้านี้แล้วตามมาล่ะ"

         เขาบอกผมเช่นนั้นแล้วก็เดินเร็วหายวับไปในห้องสมุด...ผมขนลุกวาบ ปลอดภัยกว่าคืออะไร!?

         ผมเสียวสันหลังชอบกล ไม่แน่ใจเพราะความเย็นของแอร์หรือรอบด้านมืดมิดวังเวง ในตอนนั้นเองลางสังหรณ์ที่ทำงานอุทยานมาเกือบสามอาทิตย์ก็เริ่มทำงาน---รู้สึกน่าสงสัย...ลางสังหรณ์มันบอกผมว่ายังไงก็ต้องรอแล้ว สู้อ่านไปเลยน่าจะดีกว่า เผื่อฉุกเฉินจะได้ตั้งตัวถูก

         ผมชำเลืองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ 19:35 เวลาผ่านไปสามนาทีแล้วนับตั้งแต่คู่หูเข้าห้องสมุด อีกสิบสองนาที

         และเนื้อหาก็ทำเอาผมขนลุกอีกรอบ

         เพราะมันคือ กฎ ------พระเดชพระคุณ พวกกฎอีกแล้วหรือเนี่ย!?


         ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉

      

         ขอต้อนรับสู่โลกแห่งภาษาและหน้ากระดาษแห่งปัญญา คลังมหาสรรพความรู้อันยิ่งใหญ่ของทั่วสากลจักรวาลอยู่ที่นี่แล้ว

         เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น จึงขอแจ้งกฎในการไปห้องสมุดอุทยานแมลงตอนกลางคืน ขอให้ผู้ใช้บริการจงปฏิบัติอย่างเคร่งครัด


         1.ห้องสมุดเปิดให้ใช้บริการเวลาหนึ่งทุ่มถึงตีสอง ก่อนเข้าใช้บริการ คุณต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ในห้องสมุดหรือบรรณารักษ์ภายในห้องสมุดเสียก่อน รูปลักษณ์ของคุณต้องไม่สร้างภัยคุกคามสหายนักอ่านหรือหนังสือ ไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์ใดต้องเข้าทางประตูหน้าเท่านั้น ห้ามบิน ห้ามไต่ ห้ามแทรกกายตามวัสดุหรือลักลอบใช้เส้นทางอื่นจากภายนอกเข้ามาภายในโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด หากเข้ามาโดยพลการในยามวิกาลจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก


         2.ห้ามส่งเสียงดังในห้องสมุดในทุกกรณี หากรบกวนผู้ใช้บริการห้องสมุดท่านอื่นจะต้องไล่ระดับตั้งแต่ตักเตือน เชิญออกและสูงสุดคือไม่อนุญาตเข้าใช้บริการห้องสมุด จงจำไว้ว่าหัวหน้าบรรณารักษ์ไม่ยินดีนักที่คุณไม่ทำตามกติกาห้องสมุด ถ้าเข้ามาหาคุณแสดงว่าคุณกำลังจะโดนโทษหนัก...คุณสังเกตหาเขาได้ไม่ยาก เจ้าตัวมีตาสองสีและเขา ใช่ หัวหน้าบรรณารักษ์ไม่ใช่มนุษย์ จงสำรวมตัวให้ดีเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา


         3.ไฟภายในห้องสมุดส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการเป็นบางพื้นที่ เพื่อไม่ให้รบกวนแขกท่านอื่นซึ่งไม่ชอบอ่านหนังสือภายใต้แสงสว่าง  ห้องสมุดมีพื้นที่ให้อ่านท่ามกลางแสงจันทร์ที่ชั้นสอง คุณควรศึกษาว่าพื้นที่ใดมีไฟติด หากไปรบกวนแขกท่านอื่นแล้วมีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะลงโทษคุณสถานเบาไล่ไปจนถึงสถานหนักตามลำดับ


         4.ห้ามกัดกินกระดาษในทุกกรณี ห้ามทำหนังสือขาด ฉีก เสียหาย เปียกน้ำ ชำรุดหรือเป็นตำหนิเสียหายเด็ดขาด ฝ่าฝืนจะมีโทษหนักและโทษปรับชดใช้ พึงระวังว่าหนังสือหลายเล่มของที่นี่ไม่เหมือนห้องสมุดแห่งอื่น ตำราบางเล่มอาจมีอายุเก่าแก่มากกว่าเมืองหลวงของประเทศเราเสียอีก บางเล่มก็มาจากสถานที่ใกล้เกินคุณจินตนาการและส่วนมากมาพร้อมศาสตร์ลี้ลับพิสดาร ดังนั้นจงระมัดระวังให้ดี เพราะมีหลายคนยังทำงานชดใช้ค่าเสียหายที่นี่อย่างไม่รู้จบ

         กรณีหนอนผีเสื้อ มอด เหาหนังสือ แมลงสามง่าม ด้วงและเผ่าแมลงมาใช้บริการห้องสมุด โปรดระวังความอยากอาหารของท่านในสถานที่นี้ เราจะแนบแผนที่ภัตตาคารให้หากคุณต้องการ โดยสามารถไปขอได้ที่เจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ ห้ามนำอาหารเข้ามาในอาคารเด็ดขาด


         5.ห้ามยืมหนังสือเกินหนึ่งสัปดาห์ คุณจะต้องมาคืนให้ตรงกำหนดมิฉะนั้นจะโดนค่าปรับ สำหรับท่านใดที่สนใจยืมสามารถทำบัตรได้ที่บรรณารักษ์ชั้นหนึ่ง หากขโมยหนังสือภายในออกไปจะโดนปรับสิบเท่าของมูลค่า และโทษสูงสุดของทางห้องสมุด รวมถึงตามกฎหมายสากลต่อไป


         ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการใช้บริการห้องสมุด

         ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉


         "หา?...เอ๊ะ? อาเด้ะ!? จบแล้วเหรอ? เอ๊ะ? จริงเด้ะ? มีกฎแค่เนี้ย?"

         ผมลองพลิกหน้ากระดาษดู ไม่มีอะไรเขียนอยู่แล้วไม่ว่าจะด้านหน้าหรือด้านหลังก็ไม่มี มันทำให้ผมสงสัย ผมอยู่ถูกที่หรือเปล่า ใช่อุทยานแมลงพิศวงของเราจริงหรือ มันไม่ได้มีกติกาเยอะแยะเท่าอุทยานหลัก มีแค่ห้าข้อ น้อยกว่าโซนดึกดำบรรพ์ตั้งเยอะ แถมไม่เห็นต้องสู้รบตบมือกับอะไรสยองขวัญแบบภัตตาคารหรือที่แล้วมาด้วย

         นี่มันงานเบาๆ หวานหมูชัดๆ หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า ถ้ามีงานที่นี่ก็น่าสนใจ หวังว่าห้องสมุดจะค่าแรงดีนะ...

         ---ก็อยากจะบอกแบบโล่งใจเช่นนี้อยู่หรอก ถ้ากระดาษโพสอิทร่วงลงมาที่มือผม

         ผมเหล่มองด้วยหางตา มีข้อความเขียนไว้สั้นๆ

         ผมหวาดระแวง แน่นอนใครจะไม่ระแวงกัน แต่กระนั้นผมก็หยิบพวกมันไว้บนมือ ค่อยๆพลิกอ่านข้อความ มันเขียนว่า...


         ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉


        คำแนะนำในการใช้ห้องสมุด 

        : กฎที่นี่ถูกเขียนไว้หลวมๆ แต่การใช้งานห้องสมุดต้องใช้ประสบการณ์อย่างมากไปกับการสังเกต หากพบผู้ใช้บริการหรือบรรณารักษ์บางท่านเริ่มมีพฤติกรรมที่ท่าทางอันตราย จงรีบออกมาให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย


         II : จงระวังหนังสือตำราหมวดเทววิทยาโบราณ ห้ามอ่านออกเสียงโดยไม่จำเป็น เคยมีนักอ่านกับเจ้าหน้าที่หลายรายถูกล่อลวงให้ร่ายคาถาบูชาราชาแมลงวันจนห้องสมุดวุ่นวาย หรือบ่อยครั้งมักเป็นสาวกจากลัทธิต่างๆ ซึ่งมักจะก่อเรื่องอันตรายเสมอ คุณคงไม่อยากให้ห้องสมุดกลายเป็นวิมานปีศาจสยองขวัญในพริบตาหรอกนะ


         III : เหล่าบรรณารักษ์หมวดประวัติศาสตร์ ศิลปะ เศรฐกิจและการเมือง ทั้งมนุษย์กับเผ่าแมลงล้วนมีความเกรี้ยวกราดอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ หากหลงไปเจอพวกเขา จงระวังพวกเขาจะหงุดหงิดเป็นพิเศษ ห้ามสบตาหรือทักทายเข้าก่อนเด็ดขาด ถ้าถูกทักให้พูดว่าสถานการณ์วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง จงรับฟังความทุกข์ร้อนของพวกเขาอย่างตั้งใจแม้ว่าคุณจะเป็นขั้วตรงข้ามก็ตาม คุณจะปลอดภัยในช่วงพวกเขาระบายกับคุณ จะไม่มีใครย่างกรายทำอันตรายคุณในเวลานี้ แม้แต่หัวหน้าบรรณารักษ์ก็ไม่ขัดเคือง


         IV : มนุษย์อย่าไปบริเวณหนังสือตำราเวทมนตร์หากไม่จำเป็น ในบริเวณนั้นนอกจากพวกพ่อมดแม่มดหรือผู้ศึกษาศาสตร์ลี้ลับแล้วที่นั่นก็อันตรายเกินกว่าที่คนธรรมดาจะย่างกรายเข้าไป อาวุธธรรมดาไม่อาจสร้างความเสียหายได้ที่นี่


         V : แมลงสคารับ แมลงภู่ แมลงวัน ด้วงหรือผึ้งบางตัวที่บินภายในห้องสมุดส่วนใหญ่เป็นสาวกทวยเทพโบราณ มีทั้งดีและนิสัยร้ายกาจ แมลงพวกนี้มักรวมกันเป็นหมู่คณะ บางส่วนก็ทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ห้องสมุด บางส่วนก็รับใช้ทวยเทพของตน บางส่วนก็มาถกวิชาการความรู้ แต่ถ้าคุณเจอตัวที่ปลีกวิเวกอ่านหนังสืออยู่ นั่นคือท่านสาวกระดับสูง ไม่ก็ร่างอวตารของเทพเจ้าหรือบางสิ่งที่อธิบายไม่ได้ จงแสดงเคารพด้วยความสุภาพ ห้ามทำร้ายพวกเขาเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่เป็นสมาชิกประจำของห้องสมุด หาไม่แล้วคุณอาจเผชิญหน้ากับพลังอำนาจลี้ลับที่ยากจะรับมือ


         VI : สืบเนื่องจากผู้ใช้งานลี้ลับเบื้องต้น เหตุการณ์เล็กน้อยแม้แต่ผีเสื้อขยับปีกก็อาจสร้างความวุ่นวายจนนำพาไปสู่สงครามครั้งใหญ่ โรคระบาดหรือภัยพิบัติระดับการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่บนโลกได้ ดังนั้นจงระวังให้ดี เพื่อช่วยโลกนี้เอาไว้...

         ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉ ◉


         "นี่มันคลังความรู้หรือคลังระเบิดนิวเคลียร์เนี่ย!"

         ผมอุทาน ผมไม่รู้ว่าในกระดาษแผ่นเล็กพวกนี้เป็นความจริงหรือว่านิยายแฟนตาซี แต่ว่าชั่วขณะหนึ่งกระดาษแผ่นเล็กแผ่นน้อยก็ให้ความรู้สึกว่าช่างสมกับเป็นที่ห้องสมุดประจำอุทยานแมลงของจริง แบบนี้จะกี่แสนบาทต่อเดือนก็ไม่ขอยุ่งด้วยเด็ดขาด ห้องสมุดนี้เหมือนศูนย์รวมบางสิ่งบางอย่างซึ่งผมดูแล้วมันน่ากลัวกว่าที่อื่น บางทีการเข้ามาใช้บริการคงต้องระวังมากกว่าที่คิด

         ผมเหลียวไปมองประตูอาคาร คุณผู้เชี่ยวชาญยังไม่กลับมาอีกหรือ นี่มันสิบห้านาทีหรือยังนะ...

         เฮ้ย บรรลัยล่ะ! ---อีกสิบนาทีสองทุ่ม! มันเลยสิบห้านาทีแล้วนี่

         ผมไม่เห็นโพสอิทเกี่ยวกับเวลา แต่บางทีอาจมีเหตุให้ผมไปช่วยคั่นสถานการณ์ที่รับมือไม่ได้หรือเปล่า ผมรีบดับเครื่อง เตรียมตะเกียง ลงรถแล้วเดินจ้ำไปที่หน้าประตู

         "คุณผู้เชี่ยวชาญครับ คือว่า...!"

         ผมเหลียวซ้ายชำเลืองขวาท่ามกลางความมืดที่ล้อมรอบตัวเอง ความหวาดระแวงผสมด้วยความรีบเร่ง ผมเผลอใจร้อนเลยไม่ได้เคาะประตู ผมรีบโน้มตัวจะไปจับลูกบิดกำลังจะออกแรง แต่ทว่าบานประตูมันดันเปิดออกเสียก่อน มีแมลงเหมือนตัวด้วงกำลังเปิดประตูออกมา ผมรู้ทันทีว่าไม่ใช่แมลงธรรมดาแน่ เพราะมันตัวใหญ่เท่าลูกหมา ผมสะดุดเกือบล้มไปทับร่างเจ้าตัวแทนที่พื้น โชคดีที่หักหลบทันเลยไปล้มกองที่พื้นหน้าประตูห้องสมุด

         "ว้าก! เกือบไปแล้ว ขอโทษนะครับ---อุ๊บ!"

         ผมร้องอุทาน นึกขึ้นได้ว่าตนเองเผลอเสียงดังเลยรีบเอามืออุดปากตัวเอง

         "ชุดแบบนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ภัตตาคารหรือ? เข้ามาภายในโดยไม่ได้รับอนุญาต เกือบทำร้ายเจ้าหน้าที่หน้าประตูของเรา แล้วก็เสียงดังโวยวาย มีโทษหนักนะครับ"

         เสียงคล้ายเสียงกระซิบเอ่ยพร้อมถือตะเกียงไฟมาตรงผม ร่างตัวเล็กผิวเข้มเหมือนถ่านไม้ ดวงตาข้างหนึ่งเหมือนวังน้ำวนสีมรกต---เขาคือหัวหน้าบรรณารักษ์ สีหน้าคิ้วขมวดดุ

         ผมพูดไม่ออก รู้สึกว่าต้องตาย ตายแน่ๆ ผมคิดเลยว่าไม่รอดแน่ ผมโดนสามจากห้าข้อหา

         รอดมาสามอาทิตย์มาตายเพราะสะดุดล้มที่หน้าประตูห้องสมุดเหรอเนี่ย ไม่นะ!

         "ขอโทษนะ เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของเราเองครับ คงเป็นห่วงที่ผมเข้ามานาน"

         เสียงคุณผู้เชี่ยวชาญนั่นเอง!! เขาเดินมาแตะบ่าหัวหน้าบรรณารักษ์ มือข้างหนึ่งอุ้มหนังสือมาด้วยสามสี่เล่ม ท่าทางทั้งสองดูเหมือนจะรู้จักกันเป็นอย่างดีทีเดียว ฟ้าโปรด! ผมอยากจะแก้ตัวสักคำแต่พูดไม่ออกเลย

         "เรามายืมหนังสือน่ะ พอดีเจอสหายที่แผนกตำราการเมืองชวนคุยน่ะครับ"คู่หูร่วมงานกล่าวกับบรรณารักษ์ที่ยืนกอดอกอยู่ "ได้ยินเสียงเลยปลีกออกมา ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะครับหัวหน้าบรรณารักษ์"

         เจ้าหน้าที่ห้องสมุดมองผม ผมพลิกตัวมาคุกเข่าขอโทษ เขาไม่ได้พูดอะไรกับผมหากแต่เดินไปหาคุณด้วงตัวใหญ่ที่ผมเกือบทับหน้าประตู ทั้งสองสนทนาด้วยกันบางอย่างที่ผมฟังไม่ออก ยิ่งคุณด้วงหน้าประตูคือไม่รู้อารมณ์เลย ผมไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ยิ่งสีหน้าของอีกฝ่ายก็ดูดุมากจนยากจะคาดเดา เขาหันมาทางพวกผมก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆ

         "เจ้าหน้าที่หน้าประตูของเราไม่ถือสาคุณ คราวหน้าระมัดระวังหน่อยนะครับ ที่นี่มีผู้ใช้งานมากมายและก็ชอบไม่เสียงดัง คุณอาจไม่โชคดีแบบนี้อีก"

         "เราระวังมากขึ้นแน่นอนครับ ขอตัวก่อนนะครับ"ผู้เชี่ยวชาญกล่าวด้วยรอยยิ้มและความสุภาพ เขามาหาผม แล้วพยุงให้ยืนขึ้นหลังจากขาอ่อนไร้เรี่ยวแรงมานาน

         "ผมขอโทษคุณด้วงนะครับ คุณหัวหน้าบรรณารักษ์ด้วยนะครับ" ผมรีบผงกศีรษะพูดด้วยเสียงแผ่ว ฝ่ายห้องสมุดดูยังโกรธผมอยู่ก่อนจะปิดประตูอาคารสนิท

         พวกผมรีบกระโดดกลับเข้ารถ ผมทิ้งตัวลงเบาะก่อนเอ่ยด้วยเสียงตามปรกติได้เสียที

         "คราวหน้าบอกกันก่อนสิครับ ว่าที่นี่เป็นยังไง หัวใจผมจะวายหมดเลย เหมือนอายุสั้นลงตั้งสิบปี ที่นี่มันอันตราย อันตรายมากเลยนะครับ"

         "เราก็ให้คำแนะนำแล้วนี่ ไม่ต้องห่วงหรอกมีหัวหน้าบรรณารักษ์อยู่เลยไม่เกิดเหตุรุนแรงแบบนั้นมานานแล้ว"

         ผมขนลุก เหมือนเพิ่งผ่านดินแดนที่เต็มไปด้วยกับระเบิดอย่างไรอย่างนั้น คนที่ทำงานในนั้นได้ต้องนิ่งสงบใจเย็นขนาดไหนกันนะ แต่ไม่ใช่กับผมแน่ ผมต้องตบะแตกลาออกไปก่อนไม่ก็เผลอกรีดร้องเสียงหลงจนทำให้เกิดวันสิ้นโลกแน่ๆ

         "ผมจะไม่กลับมาแล้วครับ แค่อ่านคำแนะนำก็น่ากลัวแล้วครับ"ผมบอกก่อนจะขับรถออกไป คราวนี้จะตรงไปหาสายส่งทำหน้าที่ลำเลียงอย่างดี รอทานอาหารที่ภัตตาคารดีกว่า...

         "จริงสิ อ่านนี่ด้วยสิ"คุณผู้เชี่ยวชาญเอ่ยขึ้นเบาๆ เหมือนหยิบบางอย่างออกมา

         "ไว้ขับรถเสร็จค่อยอ่านนะครับ"

         "ก็ได้...พอดีเราเจอคุณผู้อำนวยการอยู่ในห้องสมุดด้วย เขาฝากจดหมายมาให้น่ะ"

         เท้าผมแตะเบรก ชะลอรถอย่างใจเย็น แม้ว่าหัวใจจะเต้นระรัวเป็นกลองสะบัดชัย ผมมองไปทางคู่สนทนา ผู้เชี่ยวชาญแห่งโดมผีเสื้อยื่นจดหมายฉบับหนึ่งมาให้ผม ผีเสื้อสีทองเรืองแสงของเจ้าตัวโบยบินรอบผม ผมไม่แน่ใจว่าพวกนั้นอยากปลอบโยนหรืออยากมาอ่านจดหมายกันแน่ พวกมันทำให้จดหมายมีละอองกระจายอยู่เต็มไปหมด แต่ผมไม่ได้สนใจตรงจุดนั้นหรอก ผมหวั่นใจเนื้อหาด้านในมากกว่า

         หรือว่าจะเป็น ...ไม่นะ  หวังว่าไม่ใช่

         ผมมองหน้าซอง แกะออกมาก่อนไล่ตาอ่านหัวข้อแรกซึ่งก็ทำผมขนลุกเกรียวอีกครั้ง

         ข้อเสนอใหม่ที่ส่งมาให้ผม คือให้ไปช่วยงานสถานที่แห่งหนึ่ง---ใช่  มันคืออาคารคลังความรู้ที่พวกเราเพิ่งจากมาเมื่อครู่นั่นเอง

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×